กยท. หนุน “สตาร์ทอัพยางพารา” ชูนวัตกรรม พัฒนาต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งเป้าโตตลาดโลก

ยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) คือหนึ่งในองค์กรที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากจะมีพันธกิจช่วยเกษตรกรชาวสวนยางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการดูแลเรื่องสวัสดิการต่างๆ แล้ว กยท. ยังให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาใช้ โดยเฉพาะโครงการ สตาร์ทอัพด้านยางพารา เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตและต่อยอดผลิตภัณฑ์ยางพาราไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เล่าถึงการส่งเสริมสตาร์ทอัพด้านยางพาราว่า เป็นโครงการความร่วมมือไตรภาคี ระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อนำองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยมาพัฒนาและต่อยอด ต่อมาคือ กยท. โดยการนำงบประมาณจากภาครัฐ มาใช้ส่งเสริมและพัฒนางานวิจัยนวัตกรรมด้านยางพารา สู่ภาคธุรกิจ สุดท้ายคือ ภาคเอกชน สร้างโอกาสทางการค้า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสู่ตลาดโลก

“โครงการสตาร์ทอัพด้านยางพารา เป็นโครงการเพิ่มมูลค่าของยางในมิติการนำไปใช้ และการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ วันนี้เราพยายามผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ผู้ประกอบการรายใหม่ หรือในกลุ่มนักศึกษา ที่อาจจะยังขาดความรู้เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด การเข้าถึงแหล่งเงินทุน กยท. จึงจับมือหน่วยงานอื่นๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ นำนวัตกรรมเข้ามาใช้ และเชื่อมให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน” นายณกรณ์ ขยายความ

ผู้ว่าการ กยท. เผยเพิ่มเติมว่า การส่งเสริมสตาร์ทอัพด้านยางพารา ยังเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดความร่วมมือในการคิดค้นนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์เพื่อสัตว์เลี้ยง ปศุสัตว์ สิ่งแวดล้อม ลดขยะโดยการนำกลับมาใช้ใหม่ ลดการใช้พลังงาน เพื่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการยกระดับผู้ประกอบการ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ การพัฒนาจากแนวคิดสู่ต้นแบบ (โปรโตไทป์) การพัฒนาจากต้นแบบ/ผลิตภัณฑ์สู่ตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ตลาดระดับโลก และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุสานยางธรรมชาติเทอร์โมพลาสติก

ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในโครงการสตาร์ทอัพด้านยางพาราล้วนแต่มีความน่าสนใจ สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง คุ้มค่า ทนทาน และเป็นที่ต้องการของตลาด อาทิ ที่ลับเล็บแมวจากวัสดุ TPNR รองเท้าโคจากยางพารา เพื่อลดปัญหาอาการบาดเจ็บของโค ซึ่งเมื่อโคสุขภาพแข็งแรง ก็ทำให้ได้น้ำนมมากขึ้น ทั้งยังมีทุ่นกักขยะและทุ่นกักน้ำมันยางพารา ซึ่งมีอายุการใช้งานที่นานกว่าโฟมธรรมดา และไม่ปล่อยสารที่เป็นพิษต่อแหล่งน้ำ ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

“การดำเนินงานของ กยท. ในหลายมิติ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ยางพาราใหม่ ตอบสนองตลาดในยุคนิวนอร์มอล สร้างอุตสาหกรรมต่อเนื่อง บนฐานการเป็นประเทศผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลกต่อไป” ผู้ว่าการ กยท. กล่าวด้วยความมั่นใจ

ติดตาม “กยท. หนุน “สตาร์ทอัพยางพารา” ชูนวัตกรรม พัฒนาต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งเป้าโตตลาดโลก” ในรูปแบบคลิปได้ที่ลิงก์นี้ https://www.youtube.com/watch?v=d4R1wcmQF_I